Translate

วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

"ระยะเวลากว่า 70 ปี ที่บริษัทฮงฮวด เป็นผู้นำเข้าจำหน่ายหัวน้ำหอมและเคมีอุตสาหกรรม รวมทั้งสินค้าอื่นๆอีกมาก ด้วยวิธีการดำเนินงานของผู้บริหารที่มุ่งมั่นเน้นการบริการอย่างซื่อสัตย์และ จริงใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและคู่ค้า ส่งผลให้บริษัทฮงฮวดเป็นที่ยอมรับและ เชื่อถืออย่างกว้างขวาง"

บริษัทฮงฮวดถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2478 โดย คุณยก ตั้งตรงศักดิ์ เริ่มจากการนำเข้า จำหน่ายขวดแก้วจากต่างประเทศ หลังจากนั้นก็ได้มีการนำเข้าจำหน่ายหัวน้ำหอม และเคมีภัณฑ์ จนกระทั่งในปัจจุบันทางบริษัทฯ เป็นตัวแทนนำเข้าจำหน่ายสินค้าและกระจายสินค้ามากมาย หลายประเภท เช่น สินค้าเคมีอุตสาหกรรม, หัวน้ำหอม, น้ำมันหอมระเหย, หัวเชื้อกลิ่น,น้ำมันหล่อลื่นขึ้นรูปชิ้นงาน เป็นต้น โดยจำหน่ายให้แก่บริษัทอุตสาหกรรมชั้นแนวหน้า ของประเทศไทย เช่น บริษัทผลิตเครื่องสำอาง, บริษัทผลิตยา หรือ บริษัทผลิตเคมี ทางการเกษตร นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวของ
สินค้าเคมี ชั้นนำหลากหลายชนิด ปีพ.ศ. 2496 มีทุนจดทะเบียนเป็นเงินทั้งสิ้น 6 ล้านบาท ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 12 ล้านบาท ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจในช่วงปีดังกล่าว จะย่ำแย่ หรือแม้กระทั่งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น

ในปัจจุบันก็มิได้ส่งผลต่อความมั่นคงของบริษัท แต่อย่างใด เนื่องด้วยด้วยรากฐานที่มั่นคง และการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพของทีมผู้บริหาร ที่ยึดมั่นภารกิจของคุณยก ตั้งตรงศักดิ์ โดยเชื่อว่า การบริการที่ดี สินค้าที่มีคุณภาพ ความซื่อสัตย์ในการดำเนินงาน จะก่อให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจจากลูกค้า และด้วยภารกิจนี้ ส่งผลให้ รายได้ของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องถึง500 ล้านบาท รวมทั้งมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 60% ของสินค้าปลีกประเภทเคมีภัณฑ์ต่างๆในประเทศไทยนอกจากนั้นเป็นการ

เพิ่มยอดขายและการเติบโตในระยะยาวบริษัทจึงวางแผนกลยุทธ์การตลาด ดังนี้
•ขยายตลาดสินค้าประเภทน้ำมันหอมระเหยในประเทศไทย เพื่อเป็นการขยาย Line ธุรกิจ
•ขยายและปรับปรุงการกระจายสินค้าเพื่อรองรับการเปิดสาขาใหม่ ในเขตกรุงเทพ และปริมนฑล
•วางจำหน่ายสินค้าโดยใช้ตราสินค้าของบริษัทฮงฮวด

ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพตามนโยบายของบริษัทฯ จึงมีการจัด ฝึกอบรมให้แก่พนักงานทุกครั้งที่มีการนำเข้าสินค้าใหม่มาจำหน่าย เพื่อให้พนักงานเกิด ความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ ไม่เพียงแต่การฝึกอบรมให้แก่พนักงาน ทางบริษัทฯมีการจัดคอร์ส สอนสูตรการทำผลิตภัณฑ์และ ให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า เช่น สูตรการทำแชมพู, น้ำยาปรับผ้านุ่ม, หรือ ครีมบำรุงผิว เป็นต้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีแก่ลูกค้า รวมทั้งสร้างความรู้สึกที่ดีใน ด้านการบริการให้แก่ลูกค้าด้วย ปัจจุบันบริษัทฮงฮวดมี 5 สาขา คือ บริษัท ฮงฮวด จำกัด สำนักงานใหญ่ที่ถนนจักรวรรดิเพื่อรองรับลูกค้าภายในตัวเมืองเขตกรุงเทพมหานคร บริษัท ฮงฮวด จำกัด สาขาที่รังสิต - ปทุมธานี เพื่อรองรับลูกค้าจากทางภาคเหนือและจังหวัดต่างๆใกล้เคียง บริษัท ฮงฮวด จำกัด สาขาหนองแขม บริษัท ฮงฮวด จำกัด สาขาย่อยเจเจมอลล์ - จตุจักร และ บริษัท ฮงฮวด จำกัด สาขาอาคารสินสาธร – เขตธนบุรี ในอนาคตอันใกล้จะมีการขยายไปยังหัวเมืองสำคัญต่างๆในประเทศ นอกจากนั้นการขยายสาขาแสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตที่ก้าวไกลของบริษัทฮงฮวดในอนาคต

Product

การจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ หัวเชื้อกลิ่น น้ำมันหอมระเหย และ อื่นๆ สู่บริษัทต่างๆในประเทศไทย ได้ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์มากมาย ดังต่อไปนี้
•เครื่องสำอาง เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม, ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ฯลฯ
•เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม, น้ำยาทำความสะอาดพื้น, น้ำยาขัดเงา ฯลฯ
•น้ำมันหอมระเหย/ หัวน้ำหอม เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับการทำสปา หรือ Aromatherapy
•อุตสาหกรรมอาหาร เช่น อาหารกระป๋อง, นม, ไอศกรีม, ลูกอม, เบเกอรี่ ฯลฯ
•น้ำมันหล่อลื่นขึ้นรูปชิ้นงาน เช่น วัสดุอุปกรณ์สำหรับการทำอุตสาหกรรมต่างๆ ฯลฯ

Management

บุคคลเหล่านี้คือผู้ที่สร้างความมั่นคงและการเติบโตของบริษัทด้วยการทำงานอย่าง เต็มกำลังและการมองการณ์ไกลในการวางแผนการดำเนินงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการจัดจำหน่ายสินค้าให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน

Management team

•Mr. Suthep Tangtrongsakdi, CEO
•Mr. Phaibul Tangtrongsakdi, Managing Director
•Mr. Phairoj Tangtrongsakdi, Director
•Mr. Kajohnkiat Achariya-anuchon, General Manager
•Mr. Yuth Tangtrongsakdi, Wholesale Director
•Mr. Rattanaphol Tangtrongsakdi, Retail Director

Major Client
สินค้าของบริษัทฮงฮวดได้จัดจำหน่ายให้แก่บริษัทระดับแนวหน้าในประเทศไทย ดังต่อไปนี้
  • Johnson & Johnson (Thailand) Ltd.
  • Shell Company of Thailand
  • Kao Industrial Thailand Co., Ltd.
  • Lion (Thailand) Co., Ltd.
  • Hoechst Thai Ltd.
  • Procter & Gamble (Thailand) Co., Ltd.
  • Colgate-Palmolive (Thailand) Co., Ltd.
  • Lever Brothers (Thailand) Co., Ltd.
  • Dutch Mill Co., Ltd.
  • Gillette (Thailand) Co., Ltd.
  • Government Pharmaceutical Organization
  • Thai Petrochemical Industry Co., Ltd.
  • Vinyl Thai Public Co., Ltd.
  • Thai Polyethylene Co., Ltd.
  • California Manufacturing Ltd. (AVON)
  • Royal Canning Co., Ltd.
  • Hi-Q Manufacturing Ltd.
  • Narong Canning Co., Ltd.
  • Charoen Pokaphand Group.
  • LFD Manufacturing Ltd.
  • Nikon (Thailand) Co., Ltd.
  • Siam Waxy Standard Co., Ltd.
  • Group of Company

 ด้วยเงินทุนที่หนาแน่น การวางแผนการตลาดอย่างรอบคอบ ส่งผลให้บริษัทฮงฮวด มีบริษัทในเครือเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่ง และมั่นคง


 Investment & Real Estate

  •  Yoksri Co., Ltd. (Investment & Financial Companies Groups)
  • YS Property Co., Ltd. (Property Business)
  • YS Transportation Co., Ltd. (Storage & Transportation)
  • Nakornping Palace Hotel (ChiangMai)
  • Chemical Products
  • Hong Huat (Rangsit Branch)
  • United Chemical & Trading Co., Ltd. (Northern Branch of HH)
  • Cinnamon Co., Ltd. (Subsidiary of HH)
  • SmartLab Co., Ltd. (OEMs Factory for Household and Personal Care Products)

 Joint Venture Company

  • United Aromatic Co., Ltd. (Joint Venture of HH & OBS)
  • Lube Technology Co., Ltd. (Joint Venture of HH & Shima Trading)
  • Pacific Sunrise Holding Co., Ltd. (Joint Venture of HH & Shima Trading)
  • Union Sunrise Co., Ltd. (Joint Venture of Pacific & Salee Co., Ltd.)
  • Keith Harris (Thailand) Co., Ltd.

 Automobile

  • Detroit Autocenter Co., Ltd. 3 CHEVROLET Dealers
  • Phraram 3 Honda Group Co., Ltd. 5 Showrooms & Services
  • Supercar Autocenter Co. Ltd. Second Hand Cars Dealer
"สินค้าดี มีคุณภาพ ซื่อสัตย์ในบริการ มาตรฐานฮงฮวด" นี่คือคำมั่นสัญญาที่ เราจะให้แก่ลูกค้าทุกท่าน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ info@honghuatshop.com




องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหย เป็นอย่างไร

องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหย เป็นอย่างไร


องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยที่อยู่มากมายหลากร้อยชนิด แต่สามารถแยกเป็นกลุ่มของสารได้เป็น 7 กลุ่ม ซึ่งในแต่ละกลุ่มจะออกฤทธิ์ในการบำบัดที่แตกต่างกันดังนี้
  1. กลุ่ม Alcohols สารในกลุ่มนี้มีคุณสมบัติ ฆ่าเชื้อโรค ต้านเชื้อไวรัส ยกระดับจิตใจ ได้แก่ Linalol citronellol geraniol borneol menthol nerol teppineol ฯลฯ
  2. กลุ่ม Aldehydes สารในกลุ่มนี้มีฤทธิ์ในการระงับประสาท ยกระดับจิตใจ ลดอาการอักเสบ ลดความอ้วน ขยายหลอดเลือด และมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค ตัวอย่างได้แก่ Cidral citronellal neral geranial
  3. กลุ่ม Esters มีคุณสมบัติระงับประสาท สงบอารมณ์ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดอาการอักเสบ และต้านเชื้อราได้แก่ Linalyl acetate geranyl acetate bomyl acetate eugenyl acetate lavendulyl acetate
  4. กลุ่ม Ketones สาร Ketones มีคุณสมบัติช่วยขยายหลอดลม ละลายเสมหะ เสริมสร้างเนื้อเยื่อ และลดการอักเสบ ได้แก่ Jasmone fenchone camphor carvone menthone
  5. กลุ่ม Oxides ในสารกลุ่มนี้ มีคุณสมบัติในการขับเสมหะ ละลายเสมหะที่สำคัญได้แก่ Cineol นอกนั้นก็มีสารที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และการกระตุ้นระบบประสาทได้แก่ Linalol oxide ascaridol bisabolol oxide bisabolon oxide
  6. กลุ่ม Phenols มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย กระตุ้นระบบประสาท และภูมิต้านทานของร่างกายได้แก่ Eugenol thymol earvacrol
  7. กลุ่ม Terpenes สารในกลุ่มนี้มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อและการลดการอักเสบ ประกอบด้วย Camphene cadinene caryophyllene cedrene dipentene phellandrene terpinene sabinene mycrene สาร sesquiterpenes เช่น chamazulene farnesol มีฤทธิ์ในการลดการอักเสบและต้านเชื้อแบคทีเรีย สาร limonene มีคุณสมบัติต้านไวรัส pinene มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ เป็นต้น
โดยปกติน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิดจะมีสารประกอบทางเคมีตั้งแต่ 50-500 ชนิด องค์ประกอบทางเคมีแต่ละชนิด ก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ดังที่กล่าวแล้ว แต่เมื่อมาผสมผสานกันอยู่ มันก็ทำให้เกิดคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ ของน้ำมันหอมระเหยจากพืชแต่ละชนิด ที่มีจุดเด่นความเหมือนและความแตกต่างในการบำบัดต่างกันออกไป

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ info@honghuatshop.com


ศาสตร์แห่งการนวดกับ Aroma Therapy

ศาสตร์แห่งการนวดกับ Aroma Therapy คือ


เรื่องการนวดเป็นเรื่องธรรมชาติที่มีแต่โบราณ สมัยยุคหิน เมื่อไปล่าสัตว์เกิดเมื่อยตัวก็กลับมาบีบนวดด้วยมือ บางครั้งก็ใช้น้ำลายทำให้ลื่นขึ้น ในบางครั้งก็อาศัยบ่อน้ำร้อน หินร้อนธรรมชาติที่อยู่ใกล้มือๆ เมื่อลงไปแช่ หรือนำมาประคบ ก็เกิดเป็นการผ่อนคลายที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณกาล ต่อมาหลังจากยุคหินนั้น เป็นสมัยที่มีการจดบันทึกไว้ประมาณ 7000 ปีมาแล้ว จึงเป็นชาติแรกที่ใช้วิธีการนวด ซึ่งจักรพรรดิจีนโปรดให้มีการนวด เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพื่อให้นอนหลับสบาย ต่อจากจีนก็เป็นอียิปต์ ก็ใช้การนวดนักรบ ในสมัยนี้ก็มีการอาบแช่เข้ามาด้วย การนวดของอียิปต์ยังมีการนวดเพื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศอีกด้วย ซึ่งเป็นชาติแรกที่เริ่มใช้การนวดกับความรู้สึกทางเพศ หลังจากอียิปต์ก็ข้ามต่อมายัง ยุคโรมัน ใช้กับนักรบ...ต่อมาที่ โรม อิตาลีแล้วก็ต่อไปยังสแกนดีเนเวีย เดนมาร์ก สวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ ซึ่งเป็นดินแดนที่มีการพัฒนาเรื่องการนวด อบเซาว์น่า ซึ่งฟินแลนด์เป็นต้นตำรับเกี่ยวกับการอบเซาว์น่า และในแถบสแกนดิเนเวียนี้ยังมีการเน้นเรื่องการอบด้วยความร้อน ด้วยวิธีต่าง ๆ ผสมผสานกับการนวด เพราะเป็นประเทศที่หนาว ต่อมาสวีเดนได้พัฒนามาเรื่อย ๆ จนเมื่อประมาณ 100 กว่าปีมานี้เอง สวีเดนได้รวบรวมศาสตร์การนวดและการอบไอน้ำเซาว์น่า จนกลายเป็นที่นิยมและเป็นวิธีการรวดที่ดีสุดที่สุดวิธีหนึ่งในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สวีดิช มาสซาจ (Swedish Massage) เป็นการนวดแบบสากลเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก


หลักของสวีดิช มาสซาจ มีหลักคือ เพื่อผ่อนคลาย ให้เกิดความสบายเพื่อรักษาโรค เช่น อัมพาต ข้ออักเสบ ฯลฯ นวดเพื่อเสริมสวย เพื่อความสุขสำหรับคู่สมรส ซึ่งในทางการแพทย์-กายภาพบำบัด ก็มีการสอนเป็นหลักสูตรเพื่อให้บริการแนะนำแก่ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย หลักง่ายๆ ที่ให้ก็มีพื้นฐาน คือ การลูบคลึง การบิด การตบ การหยิบ การทุบ การสับ แล้วใช้ก็วิธีการเหล่านี้ไปปรับ และเสริม ทั้งนี้ผู้ที่นวดต้องศึกษาทางกายวิภาค และรู้จักสรีระ-ร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างดี ว่าถูกบังคับด้วยประสาทส่วนใด มีกล้ามเนื้อตรงไหนใช้อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายเนื่องจากการจับ หรือกด ผิดจุดได้

เครื่องมือ และส่วนประกอบที่ใช้ในการนวดมีตั้งแต่ มือ น้ำมัน แป้ง ยา ครีม โลชั่น เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ถ้าใช้การนวดเพื่อผ่อนคลาย เพื่อให้เกิดความสบายจะใช้ครีม โลชั่นหรือน้ำมันหอมระเหย เพื่อให้เกิดความลื่น ทำให้การเสียดสี ระหว่างผู้นวดและผู้ถูกนวดลดลง และเกิดความสบาย แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยที่เกิดจากโรค เช่น ข้ออักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ หรืออาการชา หรือความผิดปกติที่โครงสร้าง ก็ต้องใช้ยาและนวด เพื่อให้เลือดที่คั่งคลายและทุเลาปวด แต่ถ้ามีอาการบวม ช้ำ ระบม ก็ต้องใช้ยาอีกกลุ่มร่วมกับการนวดเพื่อคลาย แต่ต้องไม่สับสนกับการปฐมพยาบาลเกี่ยวกับการประคบเย็น 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดการบวมแล้วประคบร้อนหลังจาก 24 ชั่วโมง เพราะการนวดจะมาปรับใช้ในขั้นตอนนี้ เพื่อให้เลือดที่คั่งคลายตัว และไหลเวียนดีโดยใช้ยาประกอบ เช่น ยาพวกเจลต่าง ๆ จะลดอาการระบม ยาที่นำมาใช้ในการนวดเหล่านี้เป็นยาที่ทาภายนอกจึงมีอันตรายน้อย ถ้าไม่มีอาการแพ้ เช่น ผื่นแดง คัน ปวดแสบปวดร้อน ก็ปลอดภัย

อโรมา-เธราปี มีส่วนเกี่ยวข้อง และมีประโยชน์กับการนวดเพราะเรื่องของกลิ่น เป็นเรื่องของจิตใจ อารมณ์ เพราะถ้าผู้ที่ถูกนวดรู้สึกสบายและหอมสดชื่น ก็จะทำให้ลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อลงได้ เมื่อจิตใจสบาย ก็จะทำให้ส่วนต่าง ๆ รู้สึกดีขึ้น เพราะการนวดช่วยให้สบายอยู่แล้ว ดังนั้น กลิ่นที่ผสมอยู่ในน้ำมันซึ่งก็มีคุณสมบัติแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน ก็จะช่วยได้เมื่อนำมาใช้กับการนวด เดี๋ยวนี้มีการนำพืชสมุนไพร มาสกัดมากมายหลายชนิด และก็มีการค้นคว้าถึงคุณสมบัติของกลิ่น แต่ละอย่างมากมายและกว้างขวางขึ้น ส่วนการนวดกับน้ำมันกลิ่นหอมนั้น ไม่ค่อยได้เน้นในทางการแพทย์เท่าไร แต่จะไปเน้นในเรื่องการบำบัด สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ โดยใช้กลิ่นร่วมกับการพ่นไอน้ำให้ผู้ป่วยได้สูดดม โดยใช้ร่วมกับออกซิเจน ซึ่งจะใช้ยา-กลิ่นที่มีคุณสมบัติในการขยายหลอดลม

แต่ถ้าพูดถึงอโรมา-เธอราปี กับการนวดแล้ว จะเน้นในเรื่องของการคลายเครียด นวดเพื่อผ่อนคลายมากกว่า จะเป็นการรักษาซึ่งก็จะมีวิธีประกอบกับการใช้กลิ่น เช่น การผ่านการสูดดม การอบไอน้ำ การนวด การประคบ และกลิ่นแต่ละกลิ่นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของบุคคล ดังนั้นใครจะชอบกลิ่นใด หรือเหมาะกับกลิ่นไหน ก็ต้องทดลองเอง อย่างบางร้าน การใช้กลิ่นในการแพทย์แผนไทยก็กลับมาเป็นที่นิยมเช่นกัน เช่น การอบในกระโจมโดยมีสมุนไพรกลิ่นต่าง ๆ สมุนไพรเหล่านั้นก็เป็นยาและมีคุณสมบัติในการรักษาอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าจะพูดถึงอโรมา-เธอราปี อย่างเดียวว่าเป็นการรักษาด้วยกลิ่น คงต้องเข้าใจว่า การรักษาด้วยกลิ่นนั้นต้องปรับไปใช้กับศาสตร์อื่น ๆ ด้วย เช่นใช้กับการนวด การอบ การประคบ การสูดดม การแช่ การอาบ ฯลฯ ซึ่งก็หมายถึงความสบายของจิตใจและร่างกายนั่นเอง

เป็นที่เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่า การนวดจะช่วยผ่อนคลาย ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนของโลหิต ช่วยให้ระบบน้ำเหลืองทำงานดีขึ้น ร่างกายจะรู้สึกคลายตัวสบายกาย และสบายใจ แต่ประโยชน์ที่ได้รับจากการนวดมีพัฒนาการขึ้นไปอีก เพราะนอกจากจะนวดตามแบบสากลที่มีสอนกันอยู่ในปัจจุบัน ประมาณ 4-5 ประเภทแล้ว ปัจจุบันการนวดยังนำศาสตร์อื่น ๆ เข้ามาช่วยให้การนวดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น นวดด้วยครีม (ยา) เพื่อคลายกล้ามเนื้อหรือเพื่อบำบัดโรค นวดด้วยน้ำมันหอมระเหยเพื่อให้ผ่อนคลายสบายใจขึ้น

1. Ayurveda (อายุรเวท) เป็นแขนงหนึ่ง ของการแพทย์แผนโบราณในอินเดีย เป็นวิธีปฏิบัติให้ร่างกายบริสุทธิ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วย การนวดแบบนี้จะใช้ทั้งมือและเท้าในการนวด

2. Shiatsu (ชิอัตสึ) เป็นการนวดที่มาจากญี่ปุ่น และเป็นการพัฒนามาจากการกดจุดของจีน การนวดชิอัตสึ จะเป็นการใช้ทั้งมือกดจุดลงบนส่วนต่าง ๆ ซึ่งมีธาตุทั้ง 5 อยู่ตามร่างกาย การนวดนี้จะช่วยลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อได้ และยังสามารถคลายเครียดอีกด้วย แม้ว่าการนวดแบบนี้จะใช้นิ้วมือเป็นหลัก แต่ในบางครั้งก็ใช้ เข่า เท้า มือ ช่วยบ้าง

3. Reflexology (นวดแบบกดจุดบนเท้า) เป็นการใช้นิ้วกดจุดที่เท้า และมักใช้วิธีนี้รักษาโรค Migraine, ท้องผูก, ไซนัส, นิ่วในไต ฯลฯ

4. Swedish massage (แบบสวีดิช) เป็นการนวดที่นิยมไปทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วย เป็นการนวดแบบสัมผัส กด บีบ สับ ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

5. Alexander Technique (ทฤษฎี ปรับปรุงบุคลิกภาพ) การนวดแบบนี้จะต้องปรับปรุงท่านั่ง ท่ายืน ท่าเดิน รวมทั้งจัดระบบการหายใจใหม่ Alexander ผู้ค้นพบวิธีนี้ เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 เขาเชื่อว่า การวางท่าและจัดองค์ประกอบของรูปร่างไม่เหมาะสมจะก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา รวมทั้งเกิดความตึงตัวของกล้ามเนื้ออันเป็นผลทำให้เกิดการบาดเจ็บ ของกล้ามเนื้อได้

6. Polarity Therapy เป็นการนวดแบบเพิ่มพลัง ให้กายและใจโดยใช้หลักธาตุทั้ง 5 จากมือ เท้า ถ่ายพลังงานไปที่สมอง ทฤษฎีนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่ป่วยหนัก

7. Deep Tissue Therapy เป็นการใช้ข้อศอกนวด กดจุด

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ info@honghuatshop.com



การใช้กลิ่นบำบัด (Aromatherapy)

กลิ่นไหนใช้เพื่ออะไรบ้าง?


การใช้กลิ่นบำบัด (Aromatherapy) เป็นการบำบัดอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้น้ำมันหอมระเหย เพื่อการผ่อนคลาย บรรเทาอาการต่างๆ ซึ่งการใช้กลิ่นบำบัด มีทั้งประโยชน์และข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้ค่ะ


กลิ่นมะกรูด มะนาว ส้ม จะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ และช่วยเพิ่มชีวิตชีวาได้ ถ้าใช้นวดจะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น

กลิ่นลาเวนเดอร์ ลดอาการปวดศีรษะ ทำให้สงบและผ่อนคลาย ถ้าใช้นวดจะช่วยให้นอนหลับสบายและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ทำงานหนัก

กลิ่นไม้แก่นจันทร์ ช่วยผ่อนคลายจิตใจให้สงบ ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวหนัง

กลิ่นทีทรี (tea tree) ฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา รักษาแผลติดเชื้อ (เริม)

กลิ่นยูคาลิปตัส หยดบนผ้า หรือสำลีเพื่อสูดดมไอ แก้อาการหวัดหรือแพ้อากาศได้ (มักพบในยาดม) และยังช่วยฆ่าเชื้อโรค ลดการบวมของเยื่อจมูก

กลิ่นดอกมะลิ ช่วยทำให้จิตใจผ่อนคลายตื่นตัว ไม่หดหู่เศร้าหมอง และลดอาการเต้านมคัดในคุณแม่หลังคลอด

กลิ่นโหระพา (Basil Oil) ห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ ให้นมบุตรและผู้ป่วยโรคลมชัก เพราะมีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบและระคายเคืองต่อผิวหนังได้ง่าย

กลิ่นคาโมไมล์ ถึงแม้จะช่วยลดการอักเสบ คลายเครียด และบรรเทาอาการปวดก่อนประจำเดือน หรือในวัยใกล้หมดประจำเดือนได้ แต่ก็สามารถทำให้ผิวหนังอักเสบได้ง่าย รวมถึงห้ามใช้ในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก

กลิ่นโรสแมรี่ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด แต่ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ผู้ที่เป็นความดันสูงหรือลมชัก และระมัดระวังการระคายเคืองต่อผิวหนัง

น้ำมันหอมระเหยใช้อย่างไร?


การใช้น้ำมันหอมระเหยต้องใช้ในระดับความเข้มข้นต่ำและห้ามใช้โดยตรง ต้องทำให้เจือจางก่อน ซึ่งการใช้น้ำมันหอมระเหยสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้


ไม่ควรให้น้ำมันหอมระเหยสัมผัสกับผิวโดยตรงเพราะจะทำให้แสบร้อนได้ ควรทำให้เจือจางก่อนโดยผสมกับน้ำมันชนิดอื่น เช่น น้ำมันพื้นฐาน (Carrier Oil) น้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันอัลมอนด์ เบบี้ออยล์ เป็นต้น

ใช้ผสมน้ำอาบโดยหยดน้ำมันหอมระเหยลงบนผ้าหรือฟองน้ำถูตัวที่เปียกน้ำหมาด ๆ แล้วถูตัว หรือผสมในอ่างอาบน้ำ โดยหญิงตั้งครรภ์ควรผสมน้ำมันหอมระเหยไม่เกิน 4 หยดลงในอ่างน้ำอุ่นไว้ แช่ประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนี้พยายามผ่อนคลายทั้งร่างกายและใจให้มากที่สุด

การนวดน้ำมันหอมระเหยควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ โดยหยดลงบนฝ่ามือ 2-3 หยด ถูฝ่ามือไปมาเพื่อให้น้ำมันติดมือทั้งสองข้างแล้วค่อยลงมือนวด หรือผสมน้ำมันหอมระเหย 3-4 หยดลงในน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น แล้วใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำบิดหมาดๆ ประคบบริเวณที่ปวด เช่นบริเวณหลัง เป็นต้น

การสูดดมกลิ่น ต้องนำน้ำหอมระเหยมาผสมให้เจือจางโดยหยดลงบนกระดาษทิชชู ผ้าเช็ดหน้าหรือสำลี 2-3 หยด หรือจุดในตะเกียง

หากไอระเหยจากน้ำมันเข้าตาหรือรู้สึกแสบตา ให้ล้างตาด้วยน้ำอุ่น และล้างมือเล็บให้สะอาดหลังใช้ทุกครั้งเพื่อไม่ให้ผิวหนังระคาบเคืองจากน้ำมันที่ตกค้างอยู่

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ info@honghuatshop.com